Friday 22 January 2016

Chemistry 21

แก็สโซฮอลคืออะไร...?
  แก๊สโซฮอลไม่ใช่ "แก๊ส" แต่เป็นน้ำมัน เพราะมีสถานะเป็นของเหลว แต่ที่เรียกว่า "แก๊สโซฮอล" เพราะเกิดจากการผสมคำในภาษาอังกฤษ ระหว่างคำว่า gasoline ที่แปลว่าน้ำมัน กับ Alcohol กลายเป็น gasohol ในอดีตประเทศไทยมีเพียงแต่การจำหน่ายน้ำมันเบนซินที่ได้จากกระบวนการกลั่นทางปิโตรเคมี 100% เท่านั้น
แอลกอฮอลมาจากไหน...?
  ในโลกของเรามีแอลกอฮอลแบ่งออกเป็น 2 ชนิดใหญ่ๆ คือ เอทิลแอลกอฮอล(ethyl alcohol) ซึ่งเป็นแอลกอฮอลที่ได้จากการหมักพืชผลทางการเกษตร เช่น อ้อย มันสำปะหลัง ข้าวโพด แอลกอฮอลชนิดนี้กินได้ และเพื่อเป็นการช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรในเรื่องราคาผลผลิตตกต่ำ จึงได้นำมาผลิตเพื่อใช้เป็นส่วนผสมในน้ำมันรถยนตร์ และ เมทิลแอลกอฮอล(methyl alcohol) เป็นแอลกอฮอลที่เป็นผลพลอยได้จากกระบวนการกลั่นทางปิโตรเคมี แอกอฮอลชนิดนี้เป็นอันตรายต่อเยื่อบุต่างๆของร่างกาย และที่สำคัญ "กินไม่ได้"...แต่กลับเป็นสิ่งที่หาชื้อได้ง่ายในท้องตลาดเพราะมีราคาถูกและนิยมนำมาใช้ทำเหล้าเถื่อน...
E10 E20 E85 & E100
  E10 คือน้ำมันเบนซินที่มีส่วนผสมของน้ำมันเชื่อเพลิงอยู่ร้อยละ 90 และเอทิลแอลกอฮอลอีกร้อยละ10 หรือที่ใครๆเข้าใจกันในอัตราส่วน 9:1 ซึ่งในท้องตลาดปัจจุบันมีจำหน่ายทั้งค่าออกเทน 91 และ 95 โดยค่าออกเทน 91 เหมาะสำหรับรถยนตร์ใหม่ป้ายแดง และมีอายุการใช้งานไม่เกิน 5-6 ปี ส่วนรถยนตร์เก่าตั้งแต่ 7 ปีขึ้นไป ควรใช้ระดับค่าออกเทน 95 เพื่อทดแทนกำลังส่วนที่ต้องสูยเสียไปโดยปริยายภายหลังการสันดาบ อันเนื่องมาจากเครื่องยนตร์ใช้งานมาเป็นเวลานาน ย่อมที่จะต้องมีการสึกหรอเป็นธรรมดา
  เช่นกันกับ E20 เป็นน้ำมันเบนซินที่มีอัตราส่วนของน้ำมันอยู่ร้อยละ 80 และเอทิลแอลกอฮอลอีกร้อยละ 20 หรือในอัตราส่วน 8:2...แต่เคยสงสัยกันไหมว่า ทำไมรถบางคันถึงเติม E20 ได้ ทำไมบางคันถึงเติมไม่ได้...? เพราะน้ำมันที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอลหรือพลังงานทดแทนจากพืชที่มากจะไปมีผลต่อเครื่องยนตร์ ทำให้เกิดปฏิกิริยาทางเคมีกัดกร่อนเครื่องยนตร์ ทำให้เครื่องยนตร์สึกหรอเร็ว หากใช้น้ำมันที่ไม่เหมาะสม หรือเครื่องยนตร์ไม่ได้ผลิตมาเพื่อรองรับโดยเฉพาะ ด้วยเหตุมาจากเครื่องยนตร์รถในปัจจุบัน ผลิตขึ้นจากอะลูมินัมเป็นส่วนประกอบ เพราะมีคุณสมบัติเด่นที่น้ำหนักเบา ทนความร้อนมากแต่เก็บความร้อนน้อย และการทำงานของเครื่องยนตร์ที่เรียบและเงียบ ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เครื่องยนตร์สึกหรอเร็วกว่ากำหนด (ซึ่งในที่สุดรถทุกคันก็ต้องสึกหรออยู่ดี) จึงต้องผลิตเครื่องยนตร์ออกมารองรับเป็นพิเศษ
  E85 คือน้ำมันเบนซินที่มีอัตราส่วนของน้ำมันอยู่ 15% และเอทิลแอลกอฮอลอีก 85% แน่นอนว่าพลังงานทดแทนในสัดส่วนที่มาก ย่อมทำให้เครื่องยนตร์สึกหรอเร็วกว่าน้ำมันชนิดอื่นๆ และในประเทศไทยก็ยังไม่มีการผลิตน้ำมันชนิดนี้ออกมาจำหน่าย อีกทั้งรถยนตร์ค่ายญี่ปุ่นในไทยก็ยังไม่มีเครื่องยนตร์ E85 ออกมารองรับ นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมรถนยตร์ค่ายอเมริกาอย่าง ฟอร์ด เชฟโลเลต ถึงประกาศว่า สามารถนำเข้ารถ E85 มาขายได้ภายในระยะเวลา 2-3 เดือน เพราะในสหรัฐ มีการจำหน่าย E85 มาแล้วกว่า 10 ปี
  E100 คือเอทิลแอลกอฮอล 100% ซึ่งถูกพัฒนาขึ้นใช้สำเร็จในประเทศบราซิล เพราะในอดีตบราซิลต้องประสบปัญหาวิกฤตการพลังงานและปัญหาราคาพืชผลทางการเกษตรล้นตลาด รัฐบาลประเทศบราซิลจึงได้สนับสนุนให้มีการพัฒนาพลังงานทดแทนจากพืชผลทางการเกษตรที่ราคากำลังตกต่ำ
ทำไมประเทศบราซิลถึงทำสำเร็จ...?
  เพราะรัฐบาลมีการกำหนดนโยบายด้านพลังงานทดแทนอย่างเป็นรูปธรรม แน่ชัดว่า ในกี่ปีจะมีการพัฒนาน้ำมัน E เท่าไหร่ออกมาใช้ เมื่อมีการเปลี่ยนรัฐบาล ก็ยังมีการสนับสนุนนโยบายดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้บราซิลเป็นประเทศอันดับแรกๆ ที่ประสบความสำเร็จ นโยบายระดับชาติแบบนี้ไม่ใช่จะใช้เวลาแค่เดือนสองเดือน ปีสองปีก็จะทำกันสำเร็จ จะต้องให้เวลาทั้งผู้บริโภคและผู้ผลิตทั้งรถทั้งน้ำมันได้ปรับตัว
ถึงเวลาแล้วหรือยังที่ควรจะจริงจังจริงใจกับวิกฤตพลังงานของประเทศไทย...?

No comments:

Post a Comment